ข้อมูลหลุดแชพเตอร์ 25 Resident Evil - Project W
อัลเบิร์ต เวสเกอร์ The Mastermind
ปูมหลังตัวละคร The Mastermind
อัลเบิร์ต เวสเกอร์เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในบริษัทอัมเบรลล่า คอร์ปอเรชั่น ในขณะที่เขาก้าวหน้าอย่างมากกับอัมเบรลล่า ความทะเยอทะยานของเขาผลักดันให้เขาทรยศต่อบริษัท เขาเชื่อว่าตัวเองเป็นตัวทดลองที่ดีที่สุดซึ่งได้สัมผัสกับไวรัสต้นแบบทำให้มีความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ เวสเกอร์แกล้งตาย และลงไปอยู่ในชั้นใต้ดิน
เขาแสดงให้โลกได้รู้จักกับ Uroboros อาวุธชีวภาพที่จะกำจัดผู้อ่อนแอ และจะหลงเหลือเพียงแต่ผู้แข็งแกร่ง เวสเกอร์เริ่มวางแผนดำเนินการในแอฟริกา แต่ต้องเผชิญกับสมาชิกของ Bioterrorism Security Assessment Alliance ที่โรงเก็บอาวุธพร้อมขีปนาวุธที่บรรทุก Uroboros
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะอยู่ในจุดสูงสุดของการวิวัฒนาการ เขาจึงสร้างตัวเองให้กลายเป็นตัวทดลองอีกครั้ง โดยเปิดเผยตัวเองต่อ Uroboros เขาเริ่มวิวัฒนาการในแบบที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน แต่ในขณะที่เขารู้สึกว่าเซลล์ของเขาเปลี่ยนไป มีหมอกสีดำแปลก ๆ ปกคลุมไปทั่วโรงเก็บเครื่องบิน เมื่อหมอกจางหายไป ในที่สุดเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในอีกโลกหนึ่งที่ล้อมรอบด้วยสิ่งมีชีวิตที่ด้อยกว่า และพร้อมจะปลดปล่อยพวกเขาจากความทุกข์ทรมาน
อัลเบิร์ต เวสเกอร์ เป็นผู้บงการที่ชาญฉลาด มีความปราดเปรียว และไร้ซึ่งความปรานี ซึ่งเปี่ยมไปด้วยพลังของ Uroboros และเพิคส่วนตัวของเขาคือ Superior Anatomy , Awakened Awareness และ Terminus ช่วยให้คุณข้ามหน้าต่างได้เร็วยิ่งขึ้น ขณะอุ้มผู้รอดชีวิตจะมองเห็นผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ ในรัศมี และทำให้ผู้รอดชีวิตไม่สามารถทำการรักษาตัวได้ เมื่อประตูทางออกทำงาน
Superior Anatomy
เมื่อผู้รอดชีวิตทำการกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางอย่างเร่งรีบภายในระยะ 8 เมตรจากคุณ ความสามารถนี้จะเปิดใช้งาน การข้ามสิ่งกีดขวางของคุณจะเพิ่มขึ้น 30/35/40 % เป็นเวลา 3 วินาที เพิคนี้จะปิดการใช้งานหลังจากทำการข้ามหน้าต่างไปแล้ว เพิคนี้มีคูลดาวน์ 30 วินาที
Awakened Awareness
เมื่ออุ้มผู้รอดชีวิต คุณจะเห็นออร่าของผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ ภายในระยะ 16/18/20 เมตรจากตำแหน่งของคุณ หลังจากที่คุณหยุดอุ้มผู้รอดชีวิตออร่าจะยังคงส่งผลหลังจากนั้นต่อไปอีก 2 วินาที
Terminus
เมื่อประตูทางออกทำงาน ความสามารถนี้จะเริ่มทำงาน ผู้รอดชีวิตที่บาดเจ็บ ล้มลงนอน หรือถูกแขวนอยู่บนตะขอจะได้รับสถานะผุผัง (ไม่สามารถทำการรักษาได้) จนกว่าประตูทางออกจะถูกเปิด เมื่อประตูทางออกเปิด ผู้รอดชีวิตจะยังคงติดสถานะผุพังต่อไปอีก 20/25/30 วินาที
ความสามารถ Virulent Bound
กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้เพื่อชาร์จการโจมตี The Mastermind จะคลื่อนไหวช้าลงเล็กน้อยในขณะที่เขาเตรียมการโจมตี เมื่อชาร์จแล้วให้กดปุ่มโจมตี The Mastermind จะพุ่งเข้าชนผู้รอดชีวิต ผู้รอดชีวิตคนนั้นจะติดเชื้อ (หรือเพิ่มการติดเชื้อ) หาก The Mastermind ชนเข้ากับสิ่งกีดขวางหรือวัตถุใด ๆ ที่อยู่ในระยะ มันจะกระเด็นไปยังผู้รอดชีวิต ทำให้บาดเจ็บจากการถูกกระแทกด้วยวัตถุ หาก Virulent Bound ชนกับไม้พาเลทที่วางไว้ หรือหน้าต่าง The Mastermind จะกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง
SPECIAL EFFECT : UROBOROS INFECTION
เมื่อถูกโจมตีโดย Virulent Bound ผู้รอดชีวิตจะติดเชื้อ ในขณะที่ติดเชื้อ ผู้รอดชีวิตจะได้รับผลกระทบจากสถานะ Hindered (ทำให้เคลื่อนที่ช้าลง) และการติดเชื้อจะทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อติดเชื้อเต็มที่ เอฟเฟกต์จะยิ่งแสดงผลเด่นชัดยิ่งขึ้น หากผู้รอดชีวิตติดเชื้ออย่างสมบูรณ์ เมื่อ Virulent Bound โจมตีโดน The Mastermind จะอุ้มพวกเขาโดยอัตโนมัติ
SPECIAL INTERACTION: FIRST AID SPRAY
ภายในด่านจะมีกล่องเก็บของที่มี FIRST AID SPRAY หลายกล่องสุ่มเกิด ผู้รอดชีวิตสามารถใช้สเปรย์ปฐมพยาบาลกับตนเองหรือเพื่อนเพื่อขจัดการติดเชื้อ แต่ละ First Aid Spray มีจำนวนชาร์จที่กำหนดไว้
First Aid Spray
ยาที่จะช่วยขจัดการติดเชื้อ Uroboros สิ่งของที่เก็บได้นี้จะถูกดูดกลืนโดย The Entity เมื่อออกจากด่าน
เอดา วอง
ทุกอย่างเกี่ยวกับ เอดา วอง เป็นเรื่องลึกลับ ประวัติของเธอ สัญชาติของเธอ ความจงรักภักดี แรงจูงใจของเธอ หรือแม้แต่ชื่อจริงของเธอก็ยังเป็นปริศนา เธอเป็นสายลับที่ทำงานให้กับบริษัทอัมเบรลล่า คอร์ปอเรชั่น หรือเปล่า? เธอภักดีต่อ อัลเบิร์ต เวสเกอร์ หรือเปล่า? หรือเธอคือสายลับสองหน้า? และทำไมเธอถึงตามล่าเหล่าปรสิต Plaga? เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นนักฆ่าที่ได้รับการฝึกฝน ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธที่มีการฝึกศิลปะการต่อสู้ขั้นสูง ขณะสำรวจเมือง Los Illuminados เธอถูกจับ และเกือบถูกฆ่าในพิธีบูชายัญ แต่ท้ายที่สุด เธอก็หนีไปได้ และไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลย นั่นยังคงเป็นปริศนาอีกเช่นกัน
เอดา วอง เป็นสายลับลึกลับที่มีทักษะในการจารกรรม ทำให้เธอกลายเป็นศัตรูตัวอันตราย เพิคส่วนตัวของเธอ Wiretap , Reactive Healing และ Low Profile ทำให้เธอสามารถสอดแนมฆาตกร ได้รับการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อพันธมิตรของเธอได้รับบาดเจ็บ และไม่ทิ้งร่องรอยเมื่อกลายเป็นผู้รอดชีวิตคนสุดท้าย
*ข้อมูลเพิคแบบละเอียดยังไม่ออกมา เอาคร่าว ๆ ไปก่อนนะ
Wiretap
สามารถสอดแนมฆาตกร
Reactive Healing
ได้รับการรักษาเพิ่มขึ้นเมื่อพันธมิตรของเธอได้รับบาดเจ็บ
Low Profile
ไม่ทิ้งร่องรอยเมื่อกลายเป็นผู้รอดชีวิตคนสุดท้าย
รีเบ็คก้า แชมเบอร์
เด็กอัจฉริยะ รีเบ็คก้า แชมเบอร์ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเมื่ออายุ 18 ปี ในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจมือใหม่ เธอเป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดของ Special Tactics and Rescue Service ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นแพทย์ภาคสนามกับ Bravo Team โดยสังกัด S.T.A.R. ได้ส่งเธอไปที่ Arklay Research Facility
ทีมของเธอได้สืบสวนคดีฆาตกรรมที่น่าสยดสยอง ขณะสำรวจรถไฟที่ถูกทิ้งร้าง เธอไปพบกับสัตว์ประหลาดที่ฆ่าไม่ตาย และสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ เธอพยายามหลบหนี แต่ทว่ากลับเป็นสถานที่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าเดิม ซึ่งเป็นโรงงานใต้ดินเก่าแก่ของบริษัทอัมเบรลล่า คอร์ปอเรชั่น ที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนอย่างน่าตกใจ
ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะตามหาสมาชิกคนอื่น ๆ ของ Bravo Team เธอเดินตามเสียงที่แยกออกมาของพวกเขา แต่กลับกลายเป็นว่ากลายเป็นหมอกสีดำลึกลับที่ดูเหมือนจะปรากฏขึ้นจากที่ไหนก็ไม่รู้ ขณะที่รีเบคก้าฝ่าผ่านหมอกหนาทึบ เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่น่ากลัวอยู่ข้างหลังเธอ ตามสัญชาตญาณ เธอเอื้อมมือไปหยิบอาวุธ แต่ภายในซองหนังเก็บอาวุธของเธอกลับว่างเปล่า อาวุธของเธอหายไป ขณะที่เธอสงบสติอารมณ์ เธอได้ยินเสียงคำรามในลำคอ และหลบเลี่ยงอาวุธขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายไม้กระบองอย่างรวดเร็ว เธอรีบลุกขึ้นยืน และรีบวิ่งไปที่แสงริบหรี่ในความมืด
รีเบคก้า แชมเบอร์สเป็นแพทย์ภาคสนาม เมื่อมีเธออยู่ในทีมจะช้วยให้ทีมอุ่นใจ เพิคส่วนตัวของเธอ Better Than New , Reassurance , และ Hyperfocus เพิ่มความเร็วให้เพื่อนร่วมทีม ช้วยขยายระยะเวลาดิ้นรนบนตะขอแขวนแก่พันธมิตร และเมื่อกดสกิลเช็คสำเร็จการปั่นไฟจะเร็วขึ้น
*ข้อมูลเพิคแบบละเอียดยังไม่ออกมา เอาคร่าว ๆ ไปก่อนนะ
Better Than New
เพิ่มความเร็วให้เพื่อนร่วมทีม
Reassurance
ช้วยขยายระยะเวลาดิ้นรนบนตะขอแขวนแก่พันธมิตร
Hyperfocus
เมื่อกดสกิลเช็คสำเร็จการปั่นไฟจะเร็วขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น